วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

สมาชิกกลุ่ม ห้อง 321


1. น.ส.นภัค  เอี่ยมวชิรสกุล  เลขที่3
2. น.ส.ณัชชา   ภมรบุตร  เลขที4
3. น.ส.ดวงหทัย   ทศพรพงศ์   เลขที่6
4. น.ส.ธนพร   ซื่อสัตย์    เลขที่ 7
5. น.ส.ธนิสา  จันทร์แจ่มแสง  เลขที่9
6. น.ส.พริมา   รุ่งพรชัย   เลขที่ 13
7. น.ส.มัชฌิมา ตั้งเง็กกี่  เลขที่18
8. น.ส.สุหัทยา   ลิขิตธนสัมบัติ   เลขที่24

     เว็บนี้เป็นส่วนนึงของการศึกษา วิชาภาษาไทยมัธยมศึกษาปีที่5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2558
     เป็นการบูรณาการสวนพฤกษาศาสตร์เข้ากับวิชาภาษาไทยในรู้เว็บการศึกษา เพื่อให้ความร้แก่ผู้สนใจ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ตรงนี้








วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

เนื้อเพลง สมุนไพรในเรือนเกษตร

ทำนองเดิมจาก เพลงความคิด ของสแตมป์ อภิวัชร์


เชิญรับฟังได้ที่ลิ้งค์นี้

เนื้อเพลง
.....
ยังเดินผ่านทุกวัน เรือนเกษตรที่เราพบกันเมื่อก่อน
ที่ที่มีพรรณไม้งามมากมาย มีสรรพคุณมากล้นทุกๆต้น

อยากให้ลองได้รับรู้และลองเปิดใจ
เข้ามาศึกษา ในเรือนเกษตรแห่งนี้
อยากให้เธอเข้ามา เธอจะรับรู้ว่า
ที่ที่ตรงนี้ นั้นมีสิ่งสวยงามแค่ไหน

ในเรือนเกษตรแห่งนี้นั้นมีต้นไม้
หลายชนิด เช่น กระดังงา
ว่านหางจระเข้ หนุมานประสานกาย
มีประโยชน์อยู่มากมาย
ให้เราได้นำไปใช้อยู่เสมอ
อีกทั้งยังมีลีลาวดีแคระ
มะเดื่อฝรั่ง เเละสะเดา
ส้มจี๊ด กุหลาบพวง ปลาหมึกเเคระด่างตัวน้อย
จะมีดอกเข็มคอยกระซิบว่า "ช่วยรดนำ้ที"

......
อยากกินนำ้เหลือเกิน
ก่อนที่เรานั้นจะเเห้งตายก่อน
ฉันมีประโยชน์หลายๆอย่าง
หลายอย่างจริงๆที่ฉันไม่ได้พูดไป
ก็จะพูดได้ไงเราเป็นต้นไม้
ถ้าหากพูดได้ คงจะได้ออกสรยุ้ด~
อยากให้เธอได้ฟัง
สรรพคุณมากมาย
อยากจะพูดออกไป. ทุกสิ่งที่อยู่ในต้นฉัน


ในเรือนเกษตรแห่งนี้นั้นมีต้นไม้
หลายชนิด เช่น กระดังงา
ว่านหางจระเข้ หนุมานประสานกาย
มีประโยชน์อยู่มากมาย
ให้เราได้นำไปใช้อยู่เสมอ
อีกทั้งยังมีลีลาวดีแคระ
มะเดื่อฝรั่ง เเละสะเดา
สมจี๊ดกุหลาบพวง ปลาหมึกเเคระด่างตัวน้อย
จะมีดอกเข็มคอยกระซิบว่า "ช่วยรดนำ้ที"
.....

ให้เธอลองมาที่ เรือนเกษตรของเรา
เรือนเกษตรเตรียมอุดม ที่อุดมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด
จะมีต้นไม้คอยกระซิบว่า "รักอาจารย์จักรชัย"


ต้นฉบับ จากสแตมป์ อภิวัชร์
https://www.youtube.com/watch?v=vOFIxSQ2vi4

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ปลาหมึกแคระด่าง




      ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านจำนวนมาก ทรงพุ่มกลม ใบประกอบรูปฝ่ามือเรียงสลับ มีใบย่อยแตกออกจากก้านใบที่จุดเดียวกัน 7-11 ใบ ใบย่อยรูปไข่กลับกว้าง 4-6 ซม. ยาว 4.5-11 ซม. ปลายใบมน โคนสอบ ขอบใบเรียบ ผิวเกลี้ยงเป็นมัน ท้องใบสีเขียวเข้ม ก้านใบย่อยสีเขียวอ่อน ช่อดอกซี่ร่มเชิงประกอบ ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยสีชมพู มีขนาดเล็ก ผลสด มีเมล็ดเดียว แข็ง สีดำ


       สรรพคุณ
เป็นพืชอาหารและสมุนไพร ใช้ยอดอ่อนกินสดกับแกงหน่อไม้ เป็นยาแก้ปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ ใช้ใบสดตำพอกแผลห้ามเลือด สมานแผล ใช้ตำผสมเหล้าขาวคั้นน้ำดื่มแก้อาการช้ำใน ตกเลือด หรืออาเจียนเป็นโลหิต ใช้ผสมในตำรับยาแก้หืด แก้ภูมิแพ้



อ้างอิง

กุหลาบพวง

      

      ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัดดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอก แต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูง ประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถาง



      สรรพคุณ
นอกจากมีไว้ดูชมดมหอมๆแล้วยังกินได้ ทำน้ำสมุนไพรได้ ทำน้ำอาบแช่ร่างกายบำรุงผิว รักษาโรคปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อรูมาตอยด์ คลายเครียด กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบพวงช่วยคลายเครียด เพิ่มความรู้สึกทางเพศ ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส คลายกล้ามเนื้อ ฝากสมานรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว บำรุงตับ ช่วยระบาย ทำให้นอนหลับระงับประสาท บำรุงร่างกาย


อ้างอิง
http://pirun.ku.ac.th/~b5310103023/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87%20%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2.html
http://www.thaikasetsart.com/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9/

หนุมานประสานกาย



ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Schefflera leucantha  R. Vig.
วงศ์ :   Araliaceae
        ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 
ไม้พุ่ม สูง 1-4 เมตร แตกกิ่งก้านต่ำใกล้พื้นดิน เปลือกต้นเรียบเป็นสีน้ำตาล ใบ เป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 6-8 ใบ รูปรี กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 5-8 ซม. โคนใบแหลม ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกเล็กสีขาวนวล ผล เป็นผลมีเนื้อ รูปทรงกลม ขนาดเล็ก


      สรรพคุณของใบสด
- รักษาโรคหืด โรคแพ้อากาศ ขับเสมหะ
- รักษาโรคหลอดลมอักเสบ
- รักษาวัณโรคปอด แก้ไอ แก้อาเจียนเป็นเลือด
- ตำพอกแผลห้ามเลือด ห้ามเลือด


อ้างอิง หรือ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่

ต้นเข็ม


ชื่อวิทยาศาสตร์: Ixora chinensis lamk.
ชื่อวงศ์: RUBIACEAE
       ลักษณะทั่วไป
ต้นเข็มเป็นพรรณไม้ยืนต้นมีพุ่มขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางขนาดลำต้นมีความสูงประมาณ3-5เมตรลำต้น เป็นต้นเดี่ยวหรือแตกกอแผ่สาขาออกไปเป็นต้นต้นเล็กกลมขนาดเส้นรอบวงประมาณ 4-10 เซนติเมตรลำต้นเรียบสีน้ำตาลกิ่งยอดมีสีเขียวแตกกิ่งตรงขึ้นด้านบน ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่สลับกันรอบต้นและกิ่ง ใบแข็งเปราะมีสีเขียวสด โคนใบมนปลายใบแหลม ลักษณะใบมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันตามชนิดพันธุ์ออกดอกเป็นช่อออกตรงส่วนยอดซึ่งมีก้านดอกชูไว้ภายในช่อประกอบด้วยดอกเล็กๆลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ ซึ่งมีกลีบอยู่ส่วนบน ประมาณ 4-5 กลีบ กลีบเล็กแหลม ลักษณะดอกและสีสันแตกต่างกันไป


       สรรพคุณ
  ดอก: ดอกเข็มนำไปทำอาหารได้ ชุปแป้งทอดกินกับน้ำพริกและเครื่องเคียง
  รากเข็มขาว: มีรสหวาน แถมมีสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคตา เจริญอาหาร
  รากของเข็มแดง: ช่วยขับเสมหะ แก้กำเดา และบำรุงไฟธาตุ



อ้างอิง
http://www.maipradabonline.com/maimongkol/kem.htm


ลีลาวดีแคระ



ชื่อวิทยาศาสตร์:  Plumeria spp.
        ลักษณะต้นไม้
เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ 0.9-1.2 เมตร จนถึงต้นที่สูงมาก อาจสูงถึง 12 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางสีขาวข้น เป็นไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิดอกและผลิใบรุ่นใหม่ กิ่งที่ยังไม่แก่มีสีเขียว อ่อนนุ่ม ดูเกือบจะอวบน้ำ กิ่งแก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ กิ่งไม่สามารถทานน้ำหนักได้ กิ่งเปราะ เปลือกลำต้นหนา ต้นที่โตเต็มที่แล้วจะพัฒนาจนกระทั่งมีความแข็งแรงมากขึ้น
    ใบ  เป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่น โดยทั่วไป ใบจะหนา เหนียวแข็ง และมีสีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก
        ช่อดอก ดอกจะผลิออกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม  ในหนึ่งช่อจะมีดอกบานพร้อมกัน 10 – 30 ดอก  ออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บางพันธุ์สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
    ดอก  โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ถึงกลาง ยกเว้นบางพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่ลึกเข้าไปข้างใน ดอกมีลักษณะคล้ายท่อ ทำให้มองไม่เห็นเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย โดยจะมีเกสรตัวผู้ 5 อัน อยู่ที่โคนก้านดอก ส่วนเกสรตัวเมียอยู่ลึกลงไปในก้านดอก เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียบานไม่พร้อมกัน ยากต่อการผสมตัวเอง
  ฝัก/ผล  มีลักษณะคล้ายกับฝักต้นชวนชม ฝักอ่อนสีจะมีสีเขียวเมื่อแก่ฝักจะมีสีแดงถึงดำ


       สรรพคุณ 
    -  ต้น ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
    -  ใบ  ใบแห้งชงน้ำร้อนดื่มรักษาโรคหอบหืด ใบสดลนไฟประคบร้อนแก้ปวด บวม
    -   เปลือกราก  เป็นยารักษาโรคหนองใน ยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม
    -  เปลือกต้น  ต้มเป็นยาถ่าย ขับระดู แก้ไข้ แก้โรคโกโนเรีย 
หรือผสมกับน้ำมันมะพร้าว-ข้าว-มันเนยเป็นยาแก้ท้องเดิน ยาถ่าย ขับปัสสาวะ
    -  ดอก  ใช้ทำธูป ใช้ผสมกับพลูเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
    -  เนื้อไม้  เป็นยาแก้ไอ ยาถ่าย ขับพยาธิ 
    -  ยางจากต้น  เป็นยาถ่าย รักษาโรคไขข้ออักเสบ ใช้ผสมกับไม้จันทน์และการบูรเป็นยาแก้คัน แก้ปวดฟัน


วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

ส้มจี๊ด

      


       ลักษณะต้นไม้
ไม้พุ่มขนาดกลาง แตกแขนงเป็นพุ่มแน่น ใบรูปไข่ สีเขียวสดเป็นมัน มีหูใบขนาดเล็ก ดอกออกดอกเดี่ยว แต่มักออกรวมกันเป็นกลุ่ม มีสีขาว ติดผลดก ผลกลมเหมือนส้มทั่วไป แต่มีขนาดเล็ก เป็นส้มชนิดที่กินเปลือก ผลขนาดเล็ก มีทั้งกลมและรี เปลือกสีเหลือง เหลืองอมเขียว หรือเหลืองทอง ผลดก ผิวที่หนา มีรสเปรี้ยว อมหวานเฝื่อนนิดๆ จึงนิยมนำเปลือกไปดองเค็มเรียกกิมจ๊อ


      สรรพคุณ
1.ผลส้มจี๊ดมีวิตามินสูง น้ำส้มคั้นใช้ผสมกับเกลือเล็กน้อยใช้จิบกินแก้อาการไอ
2.น้ำในผลนำมาผสมกับเกลือเล็กน้อย ใช้กินเป็นยาขับเสมหะ
3.ผลส้มจี๊ดมีพลังเย็น รสเปรี้ยวอมหวาน มีสรรพคุณช่วยหล่อลื่นปอด
4.เปลือกผลดิบใช้รับประทานเป็นสด ๆ จะช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
5.ชาส้มจี๊ดมีสรรพคุณแก้อาการท้องอืด มีลมในท้อง ลมตีขึ้นเบื้องบนซึ่งทำให้คลื่นไส้อาเจียน
6.ช่วยในการย่อยอาหาร
7.ช่วยแก้เสียงแหบ





อ้างอิง
http://frynn.com/%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%8A%E0%B8%94/
https://www.facebook.com/FoodandHealthforyou/posts/625377494177933



สะเดา

        

          ลักษณะต้นไม้
ต้นสะเดาสูงประมาณ 5-10 เมตร เปลือกต้นแตกเป็นร่องลึกตามยาว ยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับรูปใบหอก กว้าง 3-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. โคนใบมนไม่เท่ากัน ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย แผ่นใบเรียบ สีเขียวเป็นมัน ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งขณะแตกใบอ่อน ดอกสีขาวนวล กลีบเลี้ยงมี 5 แฉก โคนติดกัน กลีบดอกโคนติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ผล รูปทรงรี ขนาด 0.8 - 1 ซม. ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว สุกเป็นสีเหลืองส้ม เมล็ดเดี่ยว รูปรี

          สรรพคุณ 
ดอก ยอดอ่อน  -  แก้พิษโลหิต กำเดา แก้ริดสีดวงในลำคอ คันดุจมีตัวไต่อยู่ บำรุงธาตุ ขับลม ใช้เป็นอาหารผักได้ดี
ขนอ่อน - ถ่ายพยาธิ แก้ริดสีดวง แก้ปัสสาวะพิการ
เปลือกต้น - แก้ไข้ เจริญอาหาร แก้ท้องเดิน บิดมูกเลือด
ก้านใบ - แก้ไข้ ทำยารักษาไข้มาลาเรีย
กระพี้ - แก้ถุงน้ำดีอักเสบ
ยาง - ดับพิษร้อน
แก่น - แก้อาเจียน ขับเสมหะ
ราก - แก้โรคผิวหนัง แก้เสมหะ ซึ่งเกาะแน่นอยู่ในทรวงอก
ใบ,ผล - ใช้เป็นยาฆ่าแมลง บำรุงธาตุ
ผล มีสารรสขม - ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ และยาระบาย แก้โรคหัวใจเดินผิดปกติ
เปลือกราก - เป็นยาฝาดสมาน แก้ไข้ ทำให้อาเจียน แก้โรคผิวหนัง
น้ำมันจากเมล็ด - ใช้รักษาโรคผิวหนัง และยาฆ่าแมลง







อ้างอิง
http://frynn.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B2/
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_09_15.htm
http://health.kapook.com/view111408.html

มะเดื่อฝรั่ง



           ลักษณะต้นไม้
มะเดื่อเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ใบเดี่ยว ด้านหนึ่งหยาบ อีกด้านหนึ่งมีขนอ่อน ลำต้นมียางสีขาว ผลออกเป็นกระจุก กลมแป้นหรือรูปไข่ เปลือกบาง ผลอ่อนสีเขียว พอสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดงหรือชมพูแล้วแต่พันธุ์ เนื้อในสีแดงเข้ม สุกแล้วมีกลิ่นหอม

            สรรพคุณ
1.ช่วยบำรุงร่างกาย และต่อต้านอนุมูลอิสระ
2.มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง
3.มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมและเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
4.ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
5.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
6.มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
   เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
7.ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
8.ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูพรุน
9.ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
10.สรรพคุณมะเดื่อ ใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก




ว่านหางจระเข้


ว่านหางจระเข้

         ต้นว่านหางจระเข้ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี มีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น มีใบเป็นใบเดี่ยว ใบหนาและยาว อวบน้ำ แผ่นใบมีสีเขียว มีจุดยาวสีขาวอ่อน ออกเรียงเวียนรอบต้น โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก มีหนามแหลมเล็ก ๆสีขาวอยู่ห่างกัน ข้างในใบเป็นวุ้นสีเขียวอ่อน ส่วนดอกว่านหางจระเข้ ออกดอกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ดอกมีสีแดมอมสีเหลือง ก้านช่อดอกยาว โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น เป็นรูปแตร ส่วนผลว่านหางจระเข้ เป็นผลแห้งคล้ายรูปกระสวย

      สรรพคุณของว่านหางจระเข้

1. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

2. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ  (ใบ)

3. มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยป้องกันและลดการเกิดแผลในกระเพาะขณะท้องว่าง
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ (วุ้น)

4. ใช้เป็นถ่าย ยาระบาย ที่เปลือกของว่านหางจระเข้จะมีน้ำยางสีเหลือง จะสารแอนทราควิโนน (เปลือก)

5. ช่วยรักษาอาการท้องผูก (ยาง)

7. ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร  (เนื้อวุ่น)

8. ช่วยแก้หนองใน (ราก,เหง้า)

9. ช่วยแก้มุตกิดหรือระดูขาวของสตรี (ราก,เหง้า)

10. ต้นของว่านหางจระเข้ มีรสเย็น ใช้ดองกับสุรานำมาดื่มช่วยขับน้ำคาวปลาได้ (ทั้งต้น)

11. ช่วยบรรเทาและแก้อาการปวดตามข้อ  (วุ้นจากใบ)

12. ใบว่านหางจระเข้มีรสเย็น นำมาตำผสมกับสุราใช้พอกรักษาฝีได้ (ใบ)

13. ช่วยรักษาแผลสด แผลจากของมีคม แผลที่ริมฝีปาก แก้ฝี แก้ตะมอย  (วุ้นจากใบ)

14. ช่วยรักษาแผลถลอก และจากการถูกครูด  (วุ้นจากใบ)

15. ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ช่วยดับพิษร้อนบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผล (วุ้นจากใบ)

16. ช่วยขจัดรอยแผลเป็น ทำให้แผลเป็นจางลง ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น (วุ้นจากใบ)

17. ช่วยรักษาตาปลาและฮ่องกงฟุต  (วุ้นจากใบ)

18. ใช้ทาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด (วุ้นจากใบ)

19. วุ้นจากใบใช้ทาเพื่อรักษาฝ้า (วุ้นจากใบ)

20. ช่วยรักษาโรคเรื้อนกวาง (โรคสะเก็ดเงิน) ช่วยลดการตกสะเก็ดและลดอาการคันของโรคเรื้อนกวาง ทำให้แผลดูดีขึ้น (วุ้นจากใบ)














อ้างอิง
http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89/
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_17_3.htm

กระดังงา

  กระดังงา

           ลักษณะของกระดังงาไทย
*  จัดเป็นไม้เลื้อยทรงพุ่มขนาดกลางและใหญ่ ลักษณะเป็นพุ่มทรงโปร่ง ออกดอกตลอดทั้งปี ลักษณะการแตกกิ่งก้านจะลู่ลงด้านล่าง บางชนิดจะเป็นเถาเลื้อยลำต้นสูงประมาณ 15-25 เมตร เปลือกต้นเกลี้ยงมีสีน้ำตาลและสีเทา โคนต้นมีปุ่มเล็กน้อยแตกกิ่งสาขามาก เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ต้องการพื้นที่ในการปลูกมาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่งและการเพาะเมล็ด มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เอเซียเขตร้อนในแถบของประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินโดนีเซีย

            กระดังงากับความเชื่อของคนไทย
 คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดที่ปลูกต้นกระดังไว้ประจำบ้านจะช่วยทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจาก “กระดัง” คือการทำให้เกิดเสียงดังไปไกล นอกจากนี้ก็ยังเชื่ออีกว่า เสียงดังเหมือนกับนกการะเวกในสมัยพุทธกาลที่มีเสียงดังไพเราะและก้องไกลทั่วสวรรค์ ดังนั้นบางคนจึงเรียกกระดังงาว่า การะเวก

            สรรพคุณของกระดังงา
1. ใช้เป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย  (ดอก)
2. ใช้เป็นยาชูกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย ทำให้ชุ่มชื่น  (ดอก)
3. ดอกใช้เป็นยาบำรุงโลหิต  (ดอก)
4. ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ  (ดอก)
5. ช่วยแก้อาการไข้เนื่องจากโลหิตเป็นพิษ  (ดอก)
6. ดอกใช้ปรุงเป็นยาหอม ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะได้  (ดอก)
7. ช่วยบำรุงประสาทและช่วยสงบประสาท  (น้ำมันหอมระเหย)
8. ช่วยแก้อาการซึมเศร้า กระวนกระวายใจ  (น้ำมันหอมระเหย)
9. ช่วยลดความดันโลหิตได้  (น้ำมันหอมระเหย)
10. ช่วยแก้หอบหืดได้  (น้ำมันหอมระเหย)
11. ช่วยแก้อาการท้องเสีย  (เปลือกต้น)
12. ช่วยขับลม  (น้ำมันหอมระเหย)
13. เปลือกต้นรสเฝื่อนใช้เป็นยาขับปัสสาวะ  (เปลือกต้น,เนื้อไม้,น้ำมันหอมระเหย)
14. ช่วยแก้ปัสสาวะพิการได้  (เปลือกต้น,เนื้อไม้)

15. ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรคได้  (น้ำมันหอมระเหย)
16. ดอกกระดังงาจัดอยู่ในเครื่องยาไทยที่เรียกว่า “พิกัดเกสรทั้ง 7” และ “พิกัดเกสรทั้ง 9”
17. ดอกกระดังงามีปรากฏในตำรายาแผนโบราณ ชื่อคัมภีร์มหาโชติรัตน์ ยาชื่อมาลาสันนิบาต ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ลมจุกคอ แก้อาการแน่นหน้าอก แก้จุกเสียกและแก้สะอึก  (ดอก)


















อ้างอิง
http://frynn.com/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2/

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

รายชื่อสมุนไพร




สมุนไพรในเรือนเกษตรกลุ่มข้าพเจ้าจะมานำเสนอ



กระดังงา

ว่านหางจระเข้


มะเดื่อฝรั่ง
สะเดา


ส้มจี๊ด
ลีลาวดีแคระ
ต้นเข็ม
หนุมานประสานกาย
กุหลาบพวง
ปลาหมึกแคระด่าง